กังวลไหม รถEVไฟฟ้า มีโอกาสไฟไหม้กี่% และรถน้ำมันICEกี่%
กังวลไหม รถไฟฟ้า ที่เราใช้ไม่ว่าจะออกรถยนต์มาใหม่หรือว่าใช้เกิน 3 ปีมีโอกาสไฟไหม้กี่เปอร์เซ็นต์และNIO
กาศไฟไหม้บ่อยไหมเป็นคำถามที่ยังถกเถียงกันไม่จบนะครับทุกท่าน
ซึ่งข่าวล่าสุดวันนี้นะครับได้เกิดเหตุเพลิงไหม้รถPHEV Plug-in Hybrid ยี่ห้อนึงนะครับคือBrand Haval Phev
ตามรายงานของ สส.ปชป.แจ้งว่า รถPhev คันนี้ไม่ได้ทำการเสียบปลั๊กชาร์จแต่อย่างใด ตัวรถนั้นไฟลุกใหม้
Battery ขึ้นมาเองดังในรูปภาพ วันนี้เรามาหาคำตอบกันจากรายละเอียดที่รวบรวมมาให้จากหลายสำนักข่าวและหลายแหล่งนะ
ครับทุกท่าน
จากการศึกษาของAuto insurance EZ เผยว่ารถยนต์ EV ไฟฟ้า 100,000 คันจะมีอัตราการเกิดเพลิงไหม้
เพียง
แค่ 25.1คัน เท่านั้น เปรียบเทียบเป็น 0.10% นะครับทุกท่านหาก 500,000คันก็จะมีโอกาสไม่ไม่เกิน 125 คัน
เปรียบเทียบกับรถเครื่องยนต์น้ำมันสันดาปIce ข้อมูลชี้ชัดว่ารถน้ำมันสันดาปมีโอกาสไฟไหม้สูงกว่า EV39%
โดยรถไฟฟ้ามีความเสี่ยงน้อยกว่ารถน้ำมัน
หากเปรียบเทียบอัตราการเกิดไฟไหม้ของรถยนต์น้ำมันสันดาปICEกับรถ EVไฟฟ้า
-รถน้ำมันสันดาปคิดคำนวณ 1แสนคันจะมีโอกาสที่จะเกิดไฟไหม้จำนวน 1,530คัน
-รถยนต์ SUV Hybrid คิดคำนวณ 100,000 คันจะมีโอกาสไฟไหม้จำนวน 3,475 คัน
ข้อมูลจาก: AutoInsuranceEZ (รวบรวมข้อมูล 13 ปี)
ข้อมูลทางด้านความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกาชี้แจงว่ารถยนต์ทั้งรถยนต์น้ำมันสันดานและรถยนต์ EV ไฟฟ้า
รถยนต์ประเภทไหนมีโอกาสไฟไหม้มากที่สุด
จากการระบุรายงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกาNFPA National fire Protection association
เผยว่า
รถยนต์ ICE น้ำมันสันดานมีเปอร์เซ็นต์และโอกาสเกิดไฟไหม้สูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าถึง40% รถไฟฟ้ามีโอกาสไฟ
ไหม้น้อยกว่ารถยนต์สันดาปถึง 60 เท่าฉะนั้นรถยนต์น้ำมันสันดาปมีโอกาสไฟไหม้ค่อนข้างสูงกว่ารถยนต์ไฮบริด
HEV และรถยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสไฟไหม้น้อยกว่ารถยนต์ Hybrid ถึง 140 เท่า
ในส่วนของลักษณะการติดไฟหรือไฟไหม้จากรถยนต์ EV ไฟฟ้าจะเป็นไปในลักษณะของการคายประจุของ
ปฏิกิริยาเคมีหรือแรงดันไฟฟ้าในการชาร์จไฟสูงควบรวมกับความร้อนของอากาศภายนอกจึงทำให้เกิดความ
ร้อนสะสมสูงขึ้นและอาจทำให้เกิดไฟไหม้แบตเตอรี่ลามไปถึงวัสดุชิ้นส่วนของรถยนต์ได้เราจะสังเกตได้ว่าขณะ
ที่เราชาร์จไฟรถยนต์ EV ไฟฟ้าพัดลมทำความเย็นให้กับเครื่องยนต์จะมีเสียงดังค่อนข้างมากและระบบแอร์จะ
ทำงานหนัก ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศจีนก็ได้ผลิตแท่นชาร์จและเครื่องชาร์จที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงมากและเป็นมาตร
ฐานของประเทศจีนเองเรื่องความปลอดภัยและวิธีแก้ไขและผลเสียยังไม่มีการเผยแพร่ออกมา
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากประเทศสวีเดนที่ระบุรายงานจากหน่วยงานทางด้านความปลอดภัยอัคคีภัยระบุว่ารถ
ยนต์สันดาปมีโอกาสเกิดไฟไหม้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าถึง 20 เท่าอีกด้วย
จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าโอกาสการเกิดไฟไหม้น่าจะมาจากอายุการใช้งานของรถยนต์น้ำมันสันดาปที่มี
จำนวนปีมากกว่าและการชำรุดผุพังจากอายุการใช้งานรวมถึงการจอดตากแดดการซ่อมแซมผิดวิธีและ อุปกรณ์
ชิ้นส่วนชำรุดไม่ได้มาตรฐานจากlineการผลิตโรงงาน
เรามาดูลักษณะการติดไฟของรถยนต์ทั้ง 2 แบบนะครับก็คือรถ Ice น้ำมันสันดานแล้วก็รถที่มีไฟฟ้าลักษณะ
การติดไฟของรถยนต์น้ำมันสันดานนะครับจะมีลักษณะเป็นความร้อนเผาผลาญวัสดุติดไฟเหมือนกับจุดไฟไหม้
กระดาษจุดเตา
เหตุการณ์รถยนต์ไฟไหม้ของพ่ค่ายหรูแบรนด์ดังประเทศจีนคือค่ายCHANGAN AVATR 12เกิดไฟลุกไหม้เมื่อ
วันหยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมารายงานว่าตัวรถนั้นไม่ได้เกิดไฟไหม้จากภาวะการทำงานผิดพลาดของ
เซลล์แบตเตอรี่หรือความร้อนจากแบตเตอรี่สูงเกินไปจากที่ตรวจสอบสภาพตัวรถไม่เกิดการเฉี่ยวชนเพราะว่า
สภาพรถยังสมบูรณ์ในส่วนหัวและท้ายเหตุการณ์นี้ตัวรถนั้นขับขึ้นไปอยู่บนเกาะกลางถนน สาเหตุการเกิดเพลิง
ไหม้อาจจะมาจากวัสดุหรือสิ่งของที่ติดไปง่ายภายในห้องสัมภาระด้านท้ายมากกว่าการเกิดความร้อนจากเซลล์
แบตเตอรี่ทำให้เกิดไฟไหม้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
ผลิตที่โดยบริษัท catl CATL (宁德时代)ความปลอดภัยของแบรนด์ ซึ่งทางแบรนด์นั้นก็ได้ออกมาเผยว่าไม่ได้เกิดการลุกไหม้จากแบตเตอรี่ใดๆนะครับ
ทุกท่าน
ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรถ Ice น้ำมันสันดาปกับรถไฟฟ้าความเสี่ยงการเกิดไฟไหม้ระเบิดแบบไหนเสี่ยงกว่า
กัน
ข้อมูลจากกลุ่ม Facebook เพจหนึ่งเผยว่ารถยนต์น้ำมันทั้งดีเซลแล้วก็เบนซินมีโอกาสไฟไหม้สูงกว่าสาเหตุอาจ
จะมาจากระบบท่อส่งน้ำมันอุปกรณ์ชำรุดอายุปีของรถยนต์ระบบเชื้อเพลิงรั่วความร้อนสะสมรวมถึงแรงอัด
กระแทกจากการเกิดอุบัติเหตุ(thermal runaway)มีตัวเลขเผยออกมาเปรียบเทียบรถน้ำมัน 1,000 คันจะมีรถไICEน้ำมันสันดาปไฟไหม้ 1 คันเปรียบเทียบเป็น 0.1
ยังไงเราก็ต้องไปตามดูกันต่อเรื่อยๆนะครับว่าเป็นเพราะปริมาณรถยนต์น้ำมันที่มีจำนวนมากบนโลกใบนี้หรือ
เปล่าเพราะรถยนต์ไฟฟ้าพึ่งผลิตออกมา
ในส่วนของรถที่มีไฟฟ้านั้นที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนผ่านกระบวนการทดสอบทั้งการเจาะด้วยเข็มการเผาไหม้
และให้รถยนต์ขึ้นไปเหยียบก็ยังไม่มีประกายไฟหรือไฟลุกไหม้ได้เพราะแบตเตอรี่นั้นมีระบบระบายความร้อนทั้ง
วัสดุหุ้นไม่ติดไฟยกเว้นBatteryได้รับการกระแทกแรงมาก เกิดความเสียหายร้ายแรงและเกิดการคลายประจุและ
มีของเหลวทางด้านหน้าของตัวรถลายออกมาผสมกันทำให้เกิดประกายไฟและลุกไม่ได้เรียกว่าปฏิกิริยา
(thermal runaway)ทำให้ครบตัวเลขการเกิดไฟไหม้จำนวน 20,000 คันต่อปีมีเพียง 1 คันเท่านั้นเองที่เป็น%ต์
0.005% ซึ่งน้อยกว่ารถน้ำมันถึง 20 เท่าจำนวน 50,000 - 1 แสนคัน
สรุปหากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์รถน้ำมัน ICE น้ำมันสันดาปมีโอกาสไฟไหม้สูงกว่ารถยนต์ EV ไฟฟ้า 2000%
หรือว่า 20 เท่า
รายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถน้ำมันสันดาปที่เกิดเพลิงไหม้โดยรวมรถยนต์จะมีอายุรถที่เป็น 5-7
ปีด้วยกันเท่านั้นซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้มานานแม้ตามอายุที่สมควรเปลี่ยนสาเหตุรองที่เกิด
เพลิงไหม้ของรถยนต์น้ำมันสันดาปคือเวลานำรถไปซ่อมแซมระบบไฟรถหรือสายไฟระบบต่างๆอาจจะซ่อม
แซมได้ไม่ดีเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้รถไฟไหม้และเลขไมล์ปีที่ผลิตอายุรถและการตกแต่งรถยนต์โดยไม่ได้มาตร
ฐาน มีผลอย่างมากในการเกิดไฟไหม้นะครับทุกท่าน
เปรียบเทียบความเป็นไปได้รถยนต์น้ำมันสันดาปค่อนข้างจะมีอายุการใช้งานที่เยอะพอสมควรในทางตรงกันข้าม
รถยนต์ EV ไฟฟ้าที่เพิ่งออกได้ไม่เกิน 1-3 ปีก็เกิดภาวะไฟไหม้(thermal runaway)ทั้งขณะขับขี่จากชาร์จและการ
เกิดอุบัติเหตุหรือแม้แต่จอดอยู่เฉยๆบนห้างก็ตาม
อย่างไรก็ตามยังหาข้อมูลที่ชี้ชัดเจนไม่ได้นะครับว่ารถยนต์ EB ไฟฟ้าจะมีอัตราการเกิดไฟไหม้มากกว่ารถยนต์
น้ำมันสันดานเพราะตอนนี้ยังไม่สามารถมีใครรวบรวมข้อมูล normalist สถิติที่ใช้งานพอๆกันและเทคโนโลยีพอๆ
กันรวมถึงปีพอๆกันออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ยังไม่สามารถสรุปได้นะครับว่ารถยนต์ EV ไฟฟ้าปลอดภัยกว่ารถ
ยนต์สันดาปน้ำมัน
ข้อมูลอีก 1 แหล่งเกี่ยวกับรถEVไฟฟ้ามีความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้มากน้อยแค่ไหนจากการวิจัยของบริษัท
EV FireSafe Australia มีเพียงรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 511 คันทั่วโลกที่ผลิตตั้งแต่ปี 2010 เดือนมิถุนายนปี 2024
เท่านั้นเอง Thermal Runaway ภาวะอุณหภูมิแบตเตอร์รี่มีอุณหภูมิสูงเกินหรือเฉียบพลัน
เหตุการณ์ไฟไหม้กับรถยนต์ EV ไฟฟ้าที่ได้รับการตรวจสอบแล้วมีจำนวน 6 ครั้งด้วยกันก็คือ
1.เกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์กระแทกกับเศษซากบนท้องถนนทะลุเข้าไปในแบตเตอรี่
2. เกิดจากการวางเพลิง
3. เกิดจากไฟไหม้นอกตัวรถทั้ง 3 ครั้ง
ข้อมูลระบุสาเหตุที่อาจเกิดไฟไหม้ในรถยนต์EVไฟฟ้าได้
-การเกิดDefectจากกระบวนการผลิตcellแบตเตอรี่เอง
-อุณหภูมิความร้อนภายนอกและภูมิประเทศที่อยู่อาศัยที่มีอากาศร้อนมากกว่าอากาศเย็น
-ปัจจัยหลักมาจากการชนและแบตเตอรี่ได้รับการกระทบกระเทือนมาก่อนหน้านี้
-การทำงานของเซลล์แบตเตอรี่กินปกติ
-แรงดันสูงระหว่างการชาร์จ
วิธีการแก้ไขเมื่อเกิดไฟใหม้แบตเตอรี่เกิดไฟไหม้
1.ใช้โฟมดับไฟที่มีคุณสมบัติใช้ดับไฟแบตเตอรี่เฉพาะรถไฟฟ้า วิธีการนี้สามารถใช้โฟมดับไฟเพื่อลดการติด
ไฟและลุกไหม้ไปยังบริเวณรอบๆได้แต่ควรที่จะฉีดน้ำดับไฟเพิ่มเติมเพื่อให้ไฟดับ 100%
2. ถังดับเพลิงหรือผงเคมีดับเพลิงแต่วิธีนี้จำเป็นจะต้องใช้น้ำพ่วงด้วยเพื่อให้ตรงจุดและดับไฟได้จริงถังดับเพลิง
ดับได้แค่ชั่วคราว แต่ไฟก็สามารถลุกไหม้ติดใหม่ได้หาก ไม่ฉีดน้ำดับไฟเพิ่มเติม
3. การใช้น้ำจำนวนมากในการดับเพลิงการฉีดฉีดตรงบริเวณที่เกิดไฟและบริเวณที่ไม่เกิดใกล้กันเพื่อไม่ให้ความ
ร้อนไปสัมผัสจนกระจายความร้อนไปยังพื้นที่อื่นได้
4.ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำเองเพราะเราไม่แน่ใจว่าการลุกไหม้นั้นจะรุนแรงหรือไม่!ควรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยดับเพลิง
มาให้เร็วที่สุด
แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้เราทำด้วยตัวเองแต่เราต้องรักษาระยะห่างอย่าไปใกล้มากฉะนั้นเราสามารถใช้ถัง
คาร์บอนไดออกไซด์ Co2 ฉีดบริเวณรอบๆข้างๆเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลามไปติดวัสดุบริเวณนั้นได้เพื่อลดการลุก
ไหม้ต่อไป และหาน้ำมาดับไฟต่อ
ล่าสุดประเทศจีนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถ EV ไฟฟ้าที่มีอัตราการเกิดเพลิงไหม้จึงได้ออกกฎหมาย
คุมเข้มในเรื่องความปลอดภัยของมาตรฐานใหม่แบตเตอรี่ที่นำไปบรรจุในรถยนต์ โดย
สื่อจีนอย่างCarNewchainaประกาศออกมาตรฐานใหม่Batteryต้องห้ามไหม้ค่ายใหนไม่ผ่านโดนเทและปรับหนัก
นะครับทุกท่าน เริ่มบังคับกฎเหล็ก No Fire, No Explosionใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปี 2026 เป็นต้นไป
สาเหตุอะไรทำไมต้องออกกฎเข้มงวดขนาดนี้สื่อจีนเคยว่ารถ EV ไฟฟ้าในช่วงปี 2013 ถึง 2024 เกิดไฟไหม้
สะสมหลายคันแม้รถจะจอดอยู่เฉยๆแต่คนมีความร้อนสะสมจนทำให้แบตเตอรี่หรือไหม้ thermal runaway
คายประจุในตัวมันเอง อย่างเช่นกรณีNIOนีโอและ BYD รวมถึง Avatar 12 one two
CATL กลายเป็นแบรนด์แรกที่ “ผ่าน” มาตรฐานใหม่ของจีน GB 38031-2025 หรือที่สายวงในเรียกกันว่า
กฎเหล็ก "No Fire, No Explosion" – ข้อบังคับใหม่ที่กำหนดให้ “แบตเตอรี่ EV ต้องไม่ลุกไหม้แม้เกิดอุบัติเหตุ
หรือความร้อนจัด”ฉันทำให้มีไว้แล้วเผารถกลางห้างขึ้นมา
กฎเหล็กกดใหม่นี้GB 38031-2025 กฎเหล็ก "No Fire, No Explosionระบุว่าBattery จะต้องไม่ระเบิดไม่ลุกไหม้
และสามารถควบคุมความร้อนได้แม้Cellเซลล์บางเซลล์จะพังไม่สามารถลุกลามไปยังเซลล์อื่นได้
เคยมีกรณีรถ EV จอดชาร์จในห้างแล้วเกิดเพลิงไหม้ลามคันอื่นในวินาที คนแห่แชร์คลิปกันระนาว โซเชียลเริ่ม
ไม่ไว้ใจรถไฟฟ้า → ทำให้รัฐต้องเร่ง จัดมาตรฐานก่อนความเชื่อมั่นจะพัง
เรียกได้ว่าค่อนข้างโหดใช้ได้เลยนะครับเรียกได้ว่าค่ายไหนไม่อัพเดทหรือพัฒนาอาจจะไม่สามารถขายรถยนต์
ได้ในประเทศจีนหลังปี 2026 นะครับผู้นำจีนอาจจะเริ่มมองเห็นความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้นี้เกี่ยวกับ
แบตเตอรี่ที่ไม่ใช่แค่ถูกหรือแรงแต่ต้องทำให้ปลอดภัยอีกด้วยนะครับทุกท่านจะมีใครสอบผ่านไหมครับเนี่ย
แต่ข้อมูลล่าสุดนะครับค่ายยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง CatLเบอร์1.ของโลก ได้ส่งแบตเตอรี่QiLIN ซึ่งใช้เทค
โนโลยี CTP Cell To Pack3.0 เข้าทดสอบในแลปก็มีผลออกมาว่าแบตเตอรี่ของ catl ผ่านฉลุยนะครับมีการเกิด
เพลิงไหม้แต่อย่างใด
มาตรฐานใหม่ของแบตเตอรี่ความหนาแน่นของพลังงาน 255Wh./kk.พื้นที่แบ่ง 72%
ค่ายยักษ์อย่างอย่างCATL ได้วางหมากล่วงหน้า เท่ากับล็อกคู่ค้าให้ใช้แบตตัวเองมากขึ้นในอนาคต
ถ้าจีนทำสำเร็จ มาตรฐานนี้อาจกลายเป็น “ISO ใหม่ของโลก EV” ก็ได้นะครับทุกท่าน
ใครขายรถ EV แต่แบตยังมีโอกาสไฟลุกอยู่...เตรียมรับแรงกระแทกจากตลาดไว้ได้เลย
ข้อมูลอีก 1 แหล่งเกี่ยวกับการเกิดไฟไหม้ในรถยนต์ EV ไฟฟ้าที่ประเทศจีน จำนวนรถ สื่อจีนเผยว่าประเทศจีน
มีอัตราการเกิดไฟไหม้ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจำนวน 86 ครั้งโดยเฉลี่ย 1 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อมูลจากกรมดับเพลิงและกู้ภัยจีนกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินในบรรดาอุบัติเหตุไฟไหม้ 86 รายการค่าย
Byd มีอัตราการเกิดไฟไหม้สูงสุด11ครั้งTesla โมเดลModel 3 และโมเดลMode S เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ 5 ครั้ง
และมีรถยนต์ EP ไฟฟ้าเกิดเพลิงไหม้เช่นกันอย่างเช่น ค่ายQin ค่ายTANG E2,E5
รวมถึงค่าย BA IC และ GAC ion ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าเกิดเพลิงไหม้เช่นกัน 3 เมษายน 2024
มีรถยนต์ไฟฟ้าเกิดเพลิงไหม้ไปแล้วกว่า 640 คันในไตรมาสแรกของปีเฉลี่ย 7 คันต่อวันปี 2565-2566 จากจำนวน
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มีจำนวนสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทำให้บางรุ่นอาจจะเกิดDefectจากการผลิตจากโรงงานทำ
ให้ไม่มีความสุขกายภาพและเกิดข้อผิดพลาดขณะวิ่งหรือขณะกำลังชาร์จไฟ จากการรีบส่งมอบ
ต่อมาวันที่ 5 เมษายนปี 2565 รถยนต์ไฟฟ้าAirways U5 เกิดเพลิงไหม้ที่สถานีชาร์จในเขตเมืองเฉิงตู jinjiang.
ประมาณวันที่ 28 มีนาคมปี 2024 ได้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ Expeng G3 ที่เมืองเซินเจิ้นทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์
ทั้งคันเหลือแต่โครงChasiss
จากตัวเลขข้อมูลยอดขายของรถยนต์ BYD ในปี 2024 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า BYD มีจำนวนยอดขาย
รถไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นสูงกว่าNIO Expeng และ LI Auto
เหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ที่เกิดในประเทศจีนมีแบรนด์ไหนบ้างแบรนด์ที่ 1 คือแบรนด์ Nio เกิดขึ้น 1 ครั้งและ
ZOTYEเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ 2 ครั้งและแบรนด์ Li Auto เกิดอุบัติเหตุทำให้เกิดไฟไหม้ 5 ครั้งและแบรนด์
EXPENG เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ 4 ครั้ง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดไฟไหม้ในรถยนต์ EV
ไฟฟ้าจำนวน 57 ครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายนปี 2024 คิดเป็น 66 %โดยค่าย Tesla เกิดเหตุไฟไหม้
ในเดือนตุลาคมปี 2024 กับ Tesla Model S เกิดเพลิงไหม้ขณะจอดอยู่ที่ลานจอดรถจึงลุกไหม้เสียหายทั้งคัน
ส่วน BYD เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์เมื่อเดือนตุลาคมปี 2024 บนทางด่วนมณฑลเซินเจิ้นและค่ายอยู่NIO
มีอุบัติเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ไฟฟ้า 1 ครั้งและค่าย lea Auto รุ่น Li One เกิดเหตุเพลิงไหม้ 5 ครั้งจาก
อุบัติเหตุ ยี่ห้อหนึ่งคือ EC6 Weltmeister ประสบอุบัติเหตุเพลิงไหม้ 4 ครั้ง ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับEX5
ลักษณะเพลิงไหม้ในรถยนต์ EV ไฟฟ้าแยกเป็น 4 ลักษณะดังนี้
1. ไฟไหม้จากเกิดอุบัติเหตุ 38.5%
2. ไฟไหม้ขณะขับ เกิดขึ้นจำนวน 6 ครั้ง
3. ไฟไหม้ขณะจอด เกิดขึ้นจำนวน 22 ครั้ง
4. ไฟไหม้ขณะชาร์จเกิดขึ้นจำนวน 20 ครั้ง รวมทั้ง 3 หัวข้อ 27.5%
สาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในสภาวะแวดล้อมแบตเตอรี่อาทิเช่นระบบชาร์จแบตรวดเร็วและกระแสแรงดันไฟ
สูงบวกกับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำมาก34 %และเกิดขึ้นในสภาวะอากาศร้อน 66%ทำให้ระบบทำความอุ่น
อิเล็กทรอนิกส์ควบคุมไม่ได้ส่งผลทำให้แบตเตอรี่อาจเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างง่ายดายThermal impact ,Thermal
Runaway ทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมเกิด เดนไดรต์และทำให้Batteryตกตะกอนลิเธียมคาร์บอเนต ที่มา :Sohu ,
CPCA,HSTONG
วิธีสังเกตแบตเตอรี่หากได้รับการกระทบกระเทือนกระแทกหรืออุบัติเหตุปะทะชนจนรถมีความเสียหายแบตเตอรี่
จะเกิดภาวะอุณหภูมิสูงเกินระดับปกติThermal impact ,Thermal Runaway
ทำให้เกิดการรับวงจรเกิดควันและเกิดประกายไฟทำให้ลุกไหม้ขึ้นด้วยตัวเองเกิดได้ทั้งขณะชาร์จตอนจอดและ
ขณะขับขี่ใช้งานหากแบตเตอรี่ ครูด กับพื้นถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้ทำการสำรวจรถยนต์
ก่อนขับขี่ และ
อีกหนึ่งสาเหตุคือการชาร์จเร็วชาร์จด่วนและชาร์จด้วยแท่นชาร์จจ่ายไฟให้การชาร์จพลังงานสูงเกิดการใช้งาน
หนักทางไฟฟ้าทำให้เกิดการเร่งชาร์จแบบประจุเต็มที่ทำให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูงเกินขีดจำกัดส่งผลให้เซลล์
แบตเตอรี่เกิดปฏิกิริยาเด่นไดรต์ในสารประกอบBatteryไฟฟ้าเกิดลัดวงจรจากระแสแรงดันไฟที่สูงทำให้เกิด
ประกายไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
สรุปหากใช้ข้อมูลเปรียบเทียบการเกิดเพลิงไหม้ที่มาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใน 1-2 ปีที่ผ่านมายังถือว่าเป็น
ค่าสถิติตัวเลขที่ต่ำมากจากการผลิตจำนวนมาก 6-8 พันล้านเซลล์ซึ่งปัจจุบันนี้มีการพัฒนาความปลอดภัยใน
ขณะชาร์จและใช้งานรถยนต์รวมถึงออกแบบติดตั้งระบบการหล่อเย็นการทำความเย็นให้กับแบตเตอรี่รวมถึงการ
ยึดผนึกวัสดุห่อหุ้มมีความทนทานต่อไฟติดไฟยากอย่างหนาแน่นมีความแข็งแรงสูงจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ว่า
แบตเตอรี่ปัจจุบันมีความปลอดภัยเกิน 90%คิดเปอร์เซ็นต์สัดส่วนคือ 0.000256%ค่ารถไฟฟ้า 1 ล้านคัน%จะอยู่ที่
2.56คันซึ่งมีความปลอดภัยกว่ารถยนต์น้ำมันสันดาปภายใน นะครับทุกท่าน
นึกถึงสมัยก่อนนะครับทุกท่านที่รถยนต์ติดตั้งก๊าซ CNG และ LPG แล้วมีข่าวรถยนต์ไฟไหม้ค่อนข้างหนาหูและ
หลายพันครั้งที่ผ่านมา...แต่ผู้คนก็เลือกที่จะใช้เพราะมีราคาถูกและประหยัดจริงถึงแม้รู้อยู่เนืองๆว่ามันจะทำลาย
เครื่องยนต์ในระยะยาวไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่าที่ควรและขายต่อมือ2ก็ไม่สามารถขายได้ แต่เพราะมันราคา
ถูกผู้คนก็ยังใช้ต่อ
ในระบบของแก๊สจะมีระบบตรวจสอบความปลอดภัยทุกๆปีซึ่งรถ EV ไฟฟ้าก็เช่นกันนะครับทุกท่านในอนาคต
ข้างหน้านี้คาดว่าน่าจะมีระบบSaftyความปลอดภัยมาไว้ตรวจสอบอย่างแน่นอน 100%
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น