สุดช็อค! 7 ค่ายEVจีน ทยอยกันล้มละลาย หนี้พุ่งยอดขายตก

 





ค่ายจีนกับเกมส์แห่งความฝันราคาแพง …. ตอนนี้ก็ต้องบอกว่า ประเทศจีนเปิดบริษัทผลิตรถยนต์กว่า140ราย

ตอนนี้เริ่มทยอยปิดตัวลงเกือบ100รายแล้วนะครับทุกท่าน ปิดตัวลงไปพร้อมกับเกมส์แห่งฝัน บทเรียนราคาแพง

ล่าสุดอย่างที่เป็นข่าวกับบริษัทดังอย่างค่ายNetaบริษัทสตาร์ท-อัฟก็ได้ปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการ

ถูกฟ้องล้มละลายค่ายแม่บริษัทHozon energy จากRed ocain 


สงครามราคาและความไม่สามัคคีกันจากเพื่อนร่วมสัญชาติทำให้บริษัทเล็กๆหลายๆบริษัทที่ไม่ได้มีโครงการ

สร้างการเงินที่ดี และมีแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งเป็นของตัวเองมาก่อนมาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็อาจจะหมด

โอกาสไปต่อได้นะครับทุกท่าน ส่วนตัวผมมองว่าค่าย byd ค่ายนี้กำลังอยู่ในช่วงของการปรับฐานให้เข้าร่องเข้า

รอยและมีมาตรฐานอย่างแข็งแกร่งอยู่นะครับทุกท่าน แต่อาจจะถูกโจมตีจากคู่แข่งหลายๆค่ายที่กำลังเสีย

ผลประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านพนักงานน้ำมันไปสู่ EV ไฟฟ้าที่จะสิ้นสุดในปี 2035 นี้จึงทำให้ผู้บริโภคส่วนมาก

เกิดความสับสนกว่า 70%จากข่าวต่างๆนะครับทุกท่าน 

จากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ทำให้ผู้คนไม่มั่นใจในการใช้จ่ายหรือเลือกซื้อสิ่งของขนาดใหญ่จากปัจจัยด้านราคา

และปัจจัยหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงหนี้สินของประเทศที่สะสมมากขึ้นGDPที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยสงครามระหว่างประเทศทำให้ข้าวของราคาแพงผู้คนชะลอการซื้อของไปตามๆกันอย่างเป็นวงกว้างใน

ระดับโลกทั้งนี้ผู้คนยังมีความกังวลอีกว่าเมื่อซื้อรถยนต์มาใช้แล้วอีก 3 ปีต้องเปลี่ยนตามลูปCycle All-NEW

รวมถึงผู้คนยังมีความไม่มั่นใจในความไม่นิ่งของค่ายบริษัทรถยนต์ที่พึ่งหันมาทางรถยนต์ไฟฟ้าใหม่โดยไม่มี

ประสบการณ์มาก่อนจะไปในทิศทางลองผิดลองถูกทำให้ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังรอคอยและเฝ้ามองความ

เสถียรในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะไม่เกิดปัญหาต่างๆ


อาทิเช่นไฟไหม้ลุยน้ำท่วมแล้วเกิดอุปกรณ์เสียหายหรือแบตเตอรี่ที่ยังมีราคาสูงอยู่และที่สำคัญคืออะไหล่ที่

รอนานเป็นพิเศษทั้งหมดทั้งมวลนี้เรียกว่าความนิ่งของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและ

เชื่อมั่นในการที่จะเลือกรถยนต์มาใช้เป็นสมาชิกในบ้าน สักคันในอนาคตหากเราตามอ่านข้อมูลในกลุ่มเราจะ

เห็นชัดเจนนะครับว่าจะมีผู้ใช้ที่ใช้รถยนต์ประสบปัญหากับกองแช่งหรือผู้ที่ขาดผลประโยชน์ทางด้านรถ Ice

น้ำมันสันดาปนักลงทุนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทำการประโคมข่าว


ให้มันเป็นประเด็นและดูร้ายแรงกว่าที่คิดกล่องเสียผลประโยชน์ในการเปลี่ยนผ่านพลังงานน้ำมันไปสู่ไฟฟ้า

เรียกได้ว่าอาจจะเป็นการดิสเครดิตคู่แข่งทางอ้อมก็เป็นได้ข้อมูลดังกล่าวนั้นจะมีทั้งข้อมูลที่ถูกบ้างผิดบ้างจาก

กองแช่งไม่ถูก100%เพื่อทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนสั่นคลอนไม่มั่นใจที่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเกิน 70%

ในกลุ่มทำให้พบ


ผู้ประสบปัญหาการรออะไหล่นานรวมถึงการเคลมประกันภัยและการซ่อมบำรุงที่ใช้เวลาค่อนข้างนานสิ่งเหล่านี้

ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในยุโรปเองอเมริกาเองประเทศไทยเองและประเทศจีนเองลดน้อย

ลงทุกๆปีซึ่งก็ต้องบอกว่าคนจีนเองก็นิยมใช้รถของยุโรปอเมริกาประมาณ 30% นะครับทุกท่านซึ่งคนจีนมองว่า

มันคุณภาพกว่าและมีความเสถียรกว่าในหลายๆเรื่อง 

ปัจจัยดังกล่าวนี้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกเกิดการชะลอตัวลงมาก แตกต่างจาก 2-3 ปีที่แล้ว 60-70%

อะไรทำให้ประเทศมหาอำนาจทั้ง 2 ขั้วกระโจนเข้าสู่ตลาด EV ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวและว่าน่าจะมาจาก ต้องการ

เป็นผู้นำทางด้าน chipset AI Technology ขั้นสูงซึ่งchipset นี้มีความฉลาดมากอุปกรณ์ไอทีทุกอย่างจะต้องใช้

ชิปเซ็ตขั้นสูงครับดังนั้นในเรื่องของชิปเซ็ตตรงนี้


ถ้าใครสามารถคุมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ได้เขาจะสามารถควบคุมดาวเทียมรถยนต์โทรศัพท์อาวุธหรือแม้แต่

ระบบ AI ทั้งหมดมันสามารถทำได้ไม่ยากครับทุกท่าน เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมสหภาพยุโรปและ 2 มหาอำนาจ

อย่างจีนและอเมริกากระโดดเข้ามาและอัดนกลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนา Eco System เหล่านี้ 


เพราะอะไรทำให้รถยนต์ค้างสต๊อกที่ดีลเลอร์เป็นจำนวนมากส่งผลทำให้ดีลเลอร์หลายประเทศกว่า 20 กว่าราย

ปฏิเสธและไม่อยากรับรถยนต์มาเพิ่มอีกคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นในเรื่องของระบบโครงสร้างของธุรกิจในการสต๊อก

สินค้านะครับทุกท่านดีลเลอร์ท่านใดที่เลือกสต๊อกสินค้าจำนวนมากกว่า 10,000 คันยิ่งสต๊อกมากยิ่งได้ราคาที่

ถูกลงมาก15 ถึง 20%เหมือนกับหัวแถวรองลงมาอันดับ 2 สต๊อกจำนวน 5,000คัน อาจจะได้รับเรทราคาที่ถูกลง

มาอีก 5-10% 

จากหัวแถวและอันดับ 3, 4, 5 สต๊อกน้อยลงมาอีกก็อาจจะได้เรทราคา  2,000คันลดลงมา1-3%อีกตามลำดับ

หากตีเป็นเงินที่ได้ส่วนลดจากการสต๊อกมากหรือน้อยรักกันนะครับอาจจะอยู่ในเรทของ 100,000 ถึง 1 ล้านบาท

นะครับทุกท่าน โดยมีค่าสถิติเผยให้เห็นภาพ ดังนี้จาก 2-3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2022 ที่มีการก่อตั้งและ

ผลิตรถยนต์ EV ไฟฟ้าใหม่ๆค่าย Tesla มีมูลค่าหุ้น


อยู่ที่ 80 ดอลลาร์ถึง 400 ดอลลาร์เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นประวัติศาสตร์ภายในไม่ถึง 2

ปียิ่งทำให้นับลงทุนทั่วโลกเห็นความเป็นไปได้ทำให้นักลงทุนกับจนเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

เสนอเงินทุนให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายพันล้านบาท 

บริษัทรถยนต์E Vต่างๆต่างประสบปัญหา inventery turn over Cycle หรือที่เรียกว่า ขายออกนานกว่าปกติโดย

มีค่าเฉลี่ยขายออกปัจจุบันอยู่ที่ 57 วันซึ่งมาตรฐานตลาดรถยนต์ทั่วไปนั้นจะมี Cycle การขายออกอยู่ที่ประมาณ

ไม่เกิน 25 ถึง 30 วัน เพื่อทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน และการนำมาบริหารในบริษัทองค์กร ซึ่งปัจจุบันนี้

byd มีปริมาณซัพพลายมากกว่า demand ล้นไปมากกว่า 3-4 เท่าจากปกติ 1.5 เท่าที่เป็นมาตรฐานทั่วไป


ปัจจัยหลักรถยนต์สต๊อกล้มตลาดอันเนื่องมาจากการอัดฉีดเงินรัฐบาลให้แก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่าย ทั้งราย

เล็กและรายใหญ่และให้สิทธิต่างๆกับประชาชนในการออกรถยนต์ไฟฟ้าทั้งส่วนลดเงินคืนและเงินสนับสนุน

100,000 บาทถึง 200,000 บาทต่อคัน ตอบรับกับนโยบาย Net Zero หรือว่าคาร์บอนต่ำเป็นศูนย์หลังปี 2035

ทำให้ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนเองและยุโรปอเมริกาเองตอบรับกับนโยบายนี้อัดฉีดเงินให้กับผู้

ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ


ทั้งอเมริกายุโรปและประเทศจีนจำนวนมากรวมถึงการขยายโรงงานค่อนข้างมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจและความผันผวน ทางด้านเศรษฐกิจและกำแพงภาษีของแต่ละประเทศที่ยัง

มีความไม่นิ่งรวมถึงภาวะสงครามอีกด้วยการอัดฉีดเงินครั้งนี้ทำให้นักลงทุนหลายคนกระโดดเข้ามาร่วมลงทุน

และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและพัฒนารถยนต์ EV ไฟฟ้า พี่กำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตข้างหน้านี้การ

อัดฉีดเงินของรัฐบาลและครั้งนี้


ทำให้เกิดผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่มากกว่า 100 รายที่กระโดดเข้ามาเป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ

แม้ว่าบริษัทนั้นแต่ยังไม่มียอดขายรถยนต์ได้เลยก็ยังได้รับเงินสนับสนุนจากทางภาครัฐกว่า 100 ล้านในการ

ขับเคลื่อนส่งผลทำให้เกิดสต๊อกรถยนต์ที่มีจำนวนมากมหาศาลเกินกว่าดีมานย์หรือเกินความต้องการของ

ผู้บริโภคไปมากกว่า4เท่ารวมเป็นเงิน 180,000 ล้านหยวน เป็นเงินไทยก็จะตกอยู่ที่ราวๆ 800,000-9 แสนล้าน

บาทนะครับทุกท่าน

อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกกระโดดเข้ามาเสนอเงินลงทุนให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ร่วมกันทั่วโลก

จำนวนกว่า 100 ชีวิต เท่าที่ผมรวบรวมข้อมูลมาให้มีทั้งหมด 3 ข้อนะครับทุกท่าน 

1.อาจจะมาจากคำกล่าวที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคต

2.รถน้ำมันจะหมดไปภายในปี 2035

3.เราจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์EVไฟฟ้าโลก 

4. นโยบายรักษ์โลกCLEAN Earth Net Zeroคาร์บอนเป็นศูนย์ 

5..เราจะสร้างระบบนิเวศ รถยนต์EV ไฟฟ้าให้สมบูรณ์แบบ 

รวมทุกค่ายที่บริษัทจีนลงทุนก่อตั้งและผลิตรถยนต์ EV ไฟฟ้าครับมากกว่าแสนแสนกว่าล้านตีเป็นตัวเลขไม่

ถูกเลยนะครับทุกท่านในส่วนของบริษัทโตโยต้าลงทุนไปประมาณ 50,000 กว่าล้านนะครับทุกท่านเปรียบเทียบ

ตัวเลขเงินทุนห่างกันแทบจะเป็น 10 เท่าเลย ครับทุกท่าน 


และอะไรทำให้นักลงทุนจีนกระโดดเข้ามาลงทุนในเกมส์แห่งความฝันนี้ก็คือวัฒนธรรมของคนจีนในการทำงาน

เขาจะไม่รอ Wait and See นะครับเขาจะมีความคิดที่ว่าลองก่อนถ้า work ก็ค่อยเร่งเครื่องทำเต็มที่เพราะว่าที่

ประเทศจีนมีการแข่งขันค่อนข้างสูงและผู้คนมีความเก่งและมากความสามารถหลายด้านทำให้หยุดคิดไม่ได้

หรือว่าทบทวนไม่ค่อยได้ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะมีประชากรที่ค่อนข้างมากก็เป็นได้ 

ทำให้ปัจจุบันนี้บริษัท byd ต้องลดอัตราการผลิตรถยนต์ ณ โรงงานหลายแห่ง ลงด้วยหยุดการผลิตกะกลางคืน

หลายแห่ง เพราะมีสต๊อกล้นเกินไปมากกว่า 4 เท่า การหยุดสายการผลิตนี้ดีหรือไม่ก็ต้องบอกว่าไม่ค่อยดีนะครับ

ทุกท่านเพราะว่าการหยุดสายการผลิต 1 แห่งมันหมายถึงต้นทุนที่จะต้องแบกรับทั้งภาระของพนักงานค่าไฟค่า

เช่าค่าเทคโนโลยีต่างๆที่เป็น บัจเจ็ท รายจ่ายตามมาทุกเดือนหากเราไม่สามารถระบายสต๊อกหรือรถยนต์ที่

ยังคงค้างสต๊อกออกไปได้ค่ายรถยนต์ ต่างๆ byd 


และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ส่วนมากมักจะทำการลดราคารถยนต์ลงเพื่อให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนภายในบริษั

ทองค์กรทำให้เกิดภาวะสงครามราคา ของแต่ละบริษัท ซึ่ง byd ได้ทำการลดราคารถยนต์ตั้งแต่ 50,000 บาท

ถึง 300,000 บาทต่อคันทำให้ค่ารถยนต์อื่นๆจำเป็นจะต้องลดราคารถยนต์ของค่ายตัวเองตามลงไปด้วย

ส่งผลทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในตัวสินค้ากับผู้บริโภค 

คือ 1. สินค้าดีจริงไหม

2. คนที่ซื้อรถยนต์ไปก่อนเสียโอกาสในการได้ส่วนลดที่มากกว่า 

ส่วนทางด้านฝั่งยุโรปค่ายรถยนต์บางแห่งมีสต๊อกค้างขายออกนานถึง 90 วันและยังไม่ชัดเจนนะครับว่าDemand

ฝั่งยุโรปจะเพิ่มขึ้นจากตัวเลข ทำให้บริษัทขนาดเล็กที่ไม่ได้มีแบรนด์ติดตลาดมาก่อนหน้านี้ค่อยๆปิดตัวลงล้ม

ละลายไปอย่างเงียบๆจำนวนกว่า 100 ราย จากการสู้สงครามราคาและต้นทุนไม่ไหว 


ก็ต้องบอกว่าเกมแห่งความฝันครั้งนี้ที่มีรัฐบาลทั้งประเทศจีนเองยุโรปอเมริกาเองได้สร้างขึ้นมาทำให้นักลงทุน

หลายๆคนกระโดดเข้ามาลงทุนบนความเชื่อมั่นที่ว่าใครที่สามารถครอบครอง Data หรือว่าเทคโนโลยีเป็นอัน

ดับแรกหรือหัวแถวคนนั้นจะเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆของโลกได้ไม่ว่าจะเป็น chipset ทางด้านคอมพิวเตอร์

โทรศัพท์การตลาด Data ต่างๆของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นลักษณะการขับรถการคุยสนทนาการฟังเพลงเส้นทาง

เที่ยวการกินอยู่เที่ยวนอนไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตสิ่งเหล่านี้


คือ Data ที่มีความสำคัญและมูลค่าสูงมากๆในอนาคต เพราะมันหมายถึงData ข้อมูลที่ทำให้เรามีรายได้มหาศาล

ในอนาคตจาก Data ที่มาจากผู้บริโภคเองแม้บางบริษัทไม่มีกำไรDemand ยังโตไม่เท่าที่ควรถึงกระนั้นรัฐบาล

ก็ยังทุ่มสุดตัว….เรียกได้ว่ารถ EV ไฟฟ้าเป็นเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เคลื่อนที่รองจากโทรศัพท์และ

Application tiktok และ facebook นะครับได้ที่บันทึกทุกอย่างของผู้ขับขี่


ทำให้ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศและสหภาพยุโรปจำเป็นจะต้องกระโดดเข้ามามีส่วนร่วมและเพิ่มงบ

มหาศาลในการพัฒนาและสร้างโรงงานรวมถึงพัฒนาระบบ r&d ด้วยเงินทุนมหาศาลเพื่อที่จะไม่ให้ประเทศ

ของตัวเองนั้นไม่ต้องซื้อเทคโนโลยี chipset ใช้จากคนอื่นตลอดเวลา รวมถึงกันได้ knowhow Data ของการ

ผลิตแบตเตอรี่จากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นพลังงานลมพลังงานน้ำพลังงานชีวภาพฟอสซิลก็ล้วนแล้วแต่ถูกกัก

เก็บไว้ในแบตเตอรี่การจัดเก็บพลังงานในทศวรรษที่ 21ที่เรียกได้ว่าเป็น Data และฐานข้อมูลที่มีมูลค่าสูงมากๆ

หากใครได้เป็นเจ้าของข้อมูลนี้

ปัจจัยเร่งอีกอย่างที่เสริมให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนในการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV ไฟฟ้าคือรัฐบาลให้สิทธิ

พิเศษในการจดทะเบียนเร็วกว่ารถยนต์ Ice สันดาบน้ำมันในประเทศจีนคือถ้าซื้อแล้วสามารถจดทะเบียนได้เลย

แต่ถ้าเป็นรถ Ice สำหรับน้ำมันจะต้องรอจดทะเบียนเป็นปีหรือต้องจับฉลากเอาณเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ผ่านมา

อาจพูดได้ว่าเป็นการคุมกำเนิดรถยนต์น้ำมันในประเทศจีนรวมถึงสหภาพยุโรปและอเมริกาก็เป็นได้ในส่วน

ของสหภาพยุโรปและอเมริกาก็ได้ออกกฎหมายที่ช่วยเร่งให้ผู้คนหันมาใช้รถ EV ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิด

การลงทุนการจัดตั้งโรงงานและการผลิตแบตเตอรี่เพื่อเป็นของตัวเองและ chipset ต่างๆรวมถึงเทคโนโลยีการ

ขับเคลื่อนอัตโนมัติต่างๆให้เป็นของตัวเอง กับแผนที่ชื่อว่า inflation reduction act  ใช้เงินลงทุนมหาศาลกว่า

แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ 




อีกหนึ่งปัจจัยคือรถน้ำมันจะหมดไปเป็นข้อตกลงในปี 2035 ในอนาคตทั้งนี้อาจจะมีจุดประสงค์แฝงในการป้อง

กันประเทศและเพื่อเปลี่ยนอำนาจขั้วโลก


ม่ทำให้ประเทศของตัวเองตกขบวนไปในที่สุด ซึ่งทางสหภาพยุโรปก็ได้ประกาศชัดนะครับว่าจะเลิกผลิต

รถยนต์น้ำมันและใช้รถยนต์น้ำมันภายในปี 2035 มาใช้พลังงานจากพลังงานทดแทนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นพลังงาน

ลมพลังงานน้ำพลังงานฟอสซิลชีวภาพและพลังงานแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งรวบรวมพลังงานที่กล่าวมาข้างต้น

ทั้งหมดทำให้ประเทศมหาอำนาจกระโดดเข้ามาทำอย่างจริงจัง 


bydลดกำลังการผลิตลง 20-30% จากแต่ก่อนนะครับเคยผลิตหามรุ่งหามค่ำ24ชม.บังคับให้ทำOTโอทีและแทบ

จะไม่มีวันหยุดเป็นประเด็นข่าวว่าค่าย byd ใช้งานหนัก..ล่าสุดจากการที่ลดกำลังการผลิตลง 20 ถึง 30%อาจ

เป็นที่มาของการพบข้อมูลเชิงลึกจากการสั่งซื้อหรือมียอดจองที่น้อยลงจากภาวะสงครามปัญหาเศรษฐกิจ

และกำแพงภาษีทำให้ต้องหยุดสายการผลิต เพราะค่ายยักษ์ใหญ่แต่ละค่ายทั้งค่ายจีนและแบรนด์ยุโรปเอง

จะพบ demand หรือมองเห็นกลุ่มลูกค้าของตัวเองที่ชัดเจนมากกว่าการเดาหรือคิดไปเองจากกองแช่ง

คู่แข่งหรือ


สื่อYouTube บางช่องที่ประโครมข่าวให้ตกใจผิดๆอย่างแน่นอน ทั้งนี้byd การหยุดกำลังการผลิตลง 20 ถึง

30% มีทั้งข้อดีและข้อเสียข้อดีอาจจะสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆที่นำมาประกอบเป็น

รถยนต์และค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์ ในการขนส่งชิ้นเปลี่ยนในการจ่ายค่าเงินเดือนพนักงานค่าน้ำค่าไฟและค่า

ใช้จ่ายต่างๆในโรงงานแห่งนั้นอาจจะประหยัดได้ถึงหลัก10ถึง 20 ล้านต่อเดือนเพราะมีสต๊อกที่ล้นอยู่ถึง4

เท่าจากการที่จะส่งรถไปขายยังฝรั่งเศสเยอรมนีลาตินอเมริกาอาเซียนยุโรป 


ในส่วนของข้อเสียก็คืออาจจะมีค่าใช้จ่ายแฝงที่มาจากค่าจอดรถ 300-500 หยวนต่อเดือนค่าน้ำค่าไฟค่าบำรุง

รักษาแบตเตอรี่ประมาณ 1,000 ล้านหยวนที่จะต้องจ่ายต่อเดือน และโลจิสติกส์ค่าน้ำมันรวมค่าใช้จ่ายต่อปี

ประมาณ 3,600 ถึง 5,400 ล้านหยวนต่อปีที่จะต้องจ่ายสื่อChaina เผยว่าเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2568 ล่าสุดนี้ byd กำลังเร่งเก็บเงินกับลูกหนี้จากสิน

ค้าคงคลัง  และจากการขายรถยนต์ในต่างประเทศ 


คำถามต่อมาคืออะไรคือแผนระยะยาวหากรถยนต์ล้นสต๊อกอะไรคือแผนสำรองที่จะสามารถระบายสต๊อก

รถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงค้างเป็นจำนวนมากให้ขายได้และอะไรคือแผนในการระบายสินค้าโดยไม่ต้องลดราคา

สงครามตัดราคาและไม่ใช้กลยุทธ์รถยนต์ไมล์เป็นศูนย์จดทะเบียนแล้วทำให้เกิดยอดขายจากการจดทะเบียน

เพื่อนำตัวเลขไปเบิกเงินจากรัฐบาลไม่ได้ถูกขายออกจริงเพื่อนำเงินไปใช้ในองค์กรต่อได้อะไรที่สร้างความ

เชื่อมั่นให้กับลงทุนที่จะมาลงทุนกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอนาคตข้างหน้านี้ หากเราไม่รู้ระบบนิเวศของแม่น้ำ

ที่เราจะตกปลาจะดีกว่าไหมหากเราไปถามคนที่ตกปลาในแม่น้ำนี้อย่างเช่นเจ้าสัวCP คุณธนินท์ เจียรวนนท์



ให้เป็นที่มาว่าค่าย Body ยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกรนั้นสามารถล้มได้หรือไม่คำตอบคือไม่น่าจะได้นะครับทุกท่าน

หากพิจารณาจากความเป็นไปได้vertical intridation  ประเทศจีนเป็นเจ้าของและครองตลาดลิเธียม นิกเกิล โคบอล

 เป็นเจ้าของวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำมีเพียงบางอย่างที่จ้าง supplier ภายนอกผลิตให้ เพราะว่าถ้าbyd

ควบคุมCycle การผลิตตั้งแต่แบตเตอรี่เทคโนโลยีตัวรถและ supply chain ต่างๆทั่วโลก bydได้ทำการผลิต

เองเป็นส่วนมากรวมถึงค่ายยักษ์ใหญ่อย่างVolkswagen อีกด้วย 


ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับค่าย Toyota แล้วที่มีหนี้สินมากกว่าค่าย byd ถึง 60 เท่า แต่มีรายได้และกระแสเงิน

สดที่มากกว่าเปรียบเทียบค่ายต่างๆในยุโรปค่าย byd มีหนี้สินอยู่ที่ 60% ของทรัพย์สินและค่าย Ford มีหนี้สิน

80% ของทรัพย์สินรวมถึงค่าย GM General Motor มีหนี้สินมากกว่าค่าย BYD อยู่ 67% ของทรัพย์สิน ทั้งนี้ทั้ง

นั้นคุณ Wei Jainjun Ceo ของ GWM กล่าวว่าBydมีความคล้ายคลึงกับเอเวอร์แกรนด์EVERGRANDอยากลอง

ให้ไปตรวจสอบหนี้สินของค่ายByd เสียก่อนเพราะอาจจะไม่เป็นอย่างที่ทางค่ายเปิดเผยก็เป็นได้ซึ่งทางค่าย

เปิดเผยว่ามีหนี้สินอยู่ที่ 60% แต่ความเป็นจริงอาจจะคุณ 10 เท่าเป็น 600% ก็เป็นได้ 


  ซึ่งปัจจุบันนี้นะครับค่าย Byd มีหนี้สินที่ค้างจ่าย oem อยู่ 6 เดือนและ Byd จะต้องจ่ายให้กับ supplier

ทั่วโลก750,000 ล้านบาทหรือ150,000 ล้านหยวนซึ่งByd มีกระแสเงินสดอยู่ในมือประมาณ 9 หมื่นล้านหยวน

90,000ล้านหยวนมาจากไหนมาจากเงินสดของบริษัทอะไหล่รถยนต์สินค้าคงคลังและลูกหนี้ที่รอเก็บเงินรวม

ถึงรถยนต์ที่ขายออกในแต่ละวัน


หากหันมาดูบริษัทโตโยต้าที่มีหนี้สินกว่าแสนล้านแต่มีทรัพย์สินมากกว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะล้มละลาย

ก็ต้องบอกว่าบริษัทโตโยต้ามียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 5 ปี จำนวน 10.82 ล้านคันในปี 2567

นี้แม้มีหนี้สินมากกว่าค่ายBYD  ถึง 60 เท่าคือมีหนี้สินหลายแสนล้านบาทแต่ค่าย Toyota ก็มียอดขายเป็น

อันดับ 1 ของโลกนะครับทุกท่าน ก็มีความเป็นไปได้ยากที่บริษัทโตโยต้าจะล้มละลายนะครับทุกท่าน 


หนี้สินที่ต้องชำระให้กับ supplier ทั่วโลก 150,000 ล้านหยวนหรือ 15 สาย BTSทำให้ BYD  ติดลบเงิน

Working Capitalที่ต้องชำระหนี้อยู่ที่ 60,000 ล้านหยวนซึ่งจ่ายล่าช้าเกิน 180 วัน200วันหรือภายใน 2 เดือนตาม

ที่รัฐบาลแจ้งตามรายงานของCAAM China automobil Industry association


 ทั้งนี้ byd มีทรัพย์สินที่ยังไม่ถูกเปิดเผยจำนวนหนึ่งที่อาจจะมีมูลค่ามหาศาล แต่ก็ยังอยู่ในสภาวะเงินทุนหมุน

เวียนติดลบ Working Capital  cat folw crisiss  ขาดสภาพคล่องอยู่ 6 หมื่นล้านหยวน หลังถูกร้องขอให้จ่ายเงิน

200,000 ล้านบาทภายใน 60 วัน ส่วนค่าย Geely  มีเงินทุนหมุนเวียนติดลบอยู่ 25,000 ล้านหยวน ส่วนส่วน

นีโอก็ประสบปัญหาจ่ายหนี้ให้กับ supplier ล่าช้าทำให้หุ้นร่วงกว่า 22% NIOเสนอหุ้นให้กับ supplier 5 รายแต่

กลับถูกปฏิเสธทั้งหมด ส่วนGWMถูกMoody เปลี่ยนสถานะOutlook เป็นNegativeดอกเบี้ยเงินพุ่ง 7%

หุ้นร่วงทั้งหมด 18% Great wall motor ประสบปัญหาจ่ายเงินล่าช้า14 วันให้กับ supplierทั่วโลก ส่วนค่าย

Geely Automobileสถานการณ์ working Capital ตอนนี้ก็ถือว่าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นะครับล่าสุดก็ได้ประกาศ

ขายหุ้นในส่วนของแบรนด์ลูกอย่างZeekr เพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับ supplier เช่นกัน 


และกำลังเผชิญหนี้สินสะสมและยอดขายที่ชะลอตัวทั้ง2แบรนด์นี้อาจจะส่งผลเสียและมีปัญหานำเงินไป

บริหารภายในองค์กร ทั้งนี้ก็ต้องรออัพเดทความช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือการขายทรัพย์สินอีกทีนะครับเพื่อ

นำเงินมาจ่ายหนี้ให้กับ supplier หรือเปลี่ยนจากหนี้สินเป็นหุ้นกับbyd 5ถึง 30% 

รายงานจากCAPA สมาคมSupplierชิ้นส่วนยานยนต์ประเทศจีนจากการรายงานข่าวของกระทรวง MIIT 

กระทรวงอุตสาหกรรมยานยนต์ ล่าสุดเมื่อวันที่28 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมาและเมื่อวันที่

15 กรกฎาคม ปี2568

กำลังจะมีการจัดประชุมใหญ่ฉุกเฉินนำโดยกระทรวง miit กระทรวงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ

ประชุมใหญ่กับ oem supplier ทั่วโลกและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพื่อที่จะหารือและหาแนวทางการแก้ไขปัญ

หาต่างๆให้ลงตัวและได้ประโยชน์ทั้ง2ฝ่าย 


เbydอาจพบกระแสหนี้เพิ่มมากขึ้นหากอัตราการขายออกรถยนต์ช้าเพราะว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีCycleไซเคิล

กันเปลี่ยนโฉมภายใน 2-3 ปีซึ่งไวมากทำให้ราคาของรถยนต์นั้นตกต่ำลงค่อนข้างมากเป็นจำนวนเงิน 200,000

ถึง 6 แสนบาทต่อคันส่งผล3หลักใหญ่ ที่เป็นเลือดลมไหลเวียนของบริษัททำให้เกิดภาวะหนี้สินหมุนเวียน

current liabilities Working Capital และcurrent Assetจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในแต่ละแบรนด์ทั่วโลก

ทำให้จำเป็นจะต้องลดราคา 15-30% ภายใน 6-8 เดือน byd จำเป็นจะต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้คลี่คลายมิ

ฉะนั้นอาจจะเหลือโรงงานฐานการผลิตที่สำคัญสำคัญหลักๆไม่กี่แห่งในอนาคตก็เป็นได้ 

ความเป็นไปได้ในอนาคตนะครับแอดมองว่าค่ายยักษ์อย่างGeely และ Byd รวมถึง Tesla ที่กำลังมุ่งหน้าพัฒ

นาและผลิตรถยนต์จำเป็นจะต้องตกลงกันใหม่ในเรื่องของ Cycle เหมือนกันเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ให้ช้าหรือ

นานออกไปอีกเพราะในขณะนี้มีสต๊อกที่ล้นค่อนข้างมาก หากไม่ทำเช่นนี้แล้วจะกลายเป็นสงครามราคาระยะ

ยาวและผู้ผลิตจะเหลือไม่ถึง 5 รายบนโลกใบนี้ อาจจะมีแค่แบรนด์ byd Toyota tesla Volkswagen และ

Geely Saic ก็เป็นได้ นอกนั้นจะเข้าร่วมกับ 5 แบรนด์เหล่านี้เป็นเครือหรือแบรนด์ลูกทั้งหมด นะครับทุกท่าน 


ต้องบอกว่าหากบริษัทไหนไม่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินมาก่อนเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าที่ิดดตลาด

ระดับโลกมาก่อนก่อนที่จะกระโจนเข้ามาทำธุรกิจเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรอการ ซัพซีดี้ หรือการสนับสนุน

ช่วยเหลือจากทางภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียวในอนาคตข้างหน้านี้บริษัทเรานั้นอาจจะหลุดจากเกมส์ก็เป็นได้ 

มีความเป็นไปได้ไหมที่ 2 บริษัทนี้จะล้มละลายและหลุดออกจากเกม

ในส่วนของบริษัทเทสล่าของ อีลอนมัสก์ที่มีเงินทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกและมีความความแข็งแกร่ง

ในเทคโนโลยีSoftwareที่ดีและมีคุณภาพ ทำให้มีความเป็นไปได้ยากที่บริษัท tesla จะล้มละลาย 

ส่วนบริษัท byd ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินค่อนข้างสูงและมีพันธมิตรทั่วโลกรวมถึงเป็นเจ้าของระบบ

นิเวศระบบการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ Vertical association ก็เป็นไปได้ยากอีกนะครับว่าบริษัท byd

จะล้มละลาย 

ส่วนบริษัทโตโยต้ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะล้มละลายก็ต้องบอกว่าบริษัทโตโยต้ามียอดขายเป็นอันดับ 1

ของโลกติดต่อกัน 5 ปี จำนวน 10.82 ล้านคันในปี 2567 นี้แม้มีหนี้สินมากกว่าค่ายBYD  ถึง 60 เท่าคือมีหนี้

สินหลายแสนล้านบาทแต่ค่าย Toyota ก็มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลกนะครับทุกท่าน ก็มีความเป็นไปได้

ยากที่บริษัทโตโยต้าจะล้มละลายนะครับทุกท่าน

ล่าสุดค่ายผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนอีก4รายก็ได้ทำการยื่นล้มละลาย เป็นที่เรียบร้อยแล้วได้แก่ GAC-FAIC / AIWAYS /LETIN /WM MOTOR  หรือ Weltmeister Motor Technology Group company Limited.และ Yangtse River Automobile Group (ผู้ผลิตรถยนต์EVไฟฟ้า)

รายละเอียดการยื่นล้มละลาย ของค่าย GAC-FAIC ได้ทำการยื่นล้มละลายล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม

2565 ที่ผ่านมา.

บริษัท Yangtse River Automobile Group ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท Li Auto และ บริษัทDIDI AUTOก็ได้ทำการยื่นล้มละลาย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

  ส่วน บริษัทAIWAYS ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถSUVครอบครัว AIWAYS U5 และ TAXIครอบครัว ไฟฟ้า


ส่วนค่าย LETIN ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน ก็ได้ยื่นล้มละลายในเดือนมีนาคม2022เช่นกัน จะเห็นได้นะ

ครับว่าช่วงนี้จะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์EVไฟฟ้า ทยอยยื่นลื่มละลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะครับ จากแต่ก่อน

เคยมีจำนวนหลักร้อยรายปัจจุบันเหลือเพียงแค่หลัก10รายเท่านั้น



ส่วนบริษัท Weltmeister ที่เป็นStart-Upด้านรถยนต์ไฟฟ้า ขอยื่นล้มละลายเรียบร้อยแล้วโดยมียอด
ขาดทุนสะสมอยู่ที่4พันล้านหยวนหรือตีเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ประมาณ 18,080,000,000บาท

เนื่องจากสภาวะการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจรถ

ยนต์ไฟฟ้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ค่ายจีนมาเหนือ รถไฟฟ้า ธุรกิจใหม่!ดาวรุ่งพุ่งแรงปี 2568-69กับสถิติยอดขายเติบโต

กระบะค่ายใหนในไทยน่าสนใจสุด! ราคารถกระบะ 4 ประตูในปี 2025หมัดต่อหมัด

สัมผัสนวัตกรรมใหม่ด้านยานยนต์ 2025 รู้ก่อนใคร ไม่พลาดทุกเรื่องรถ!อัปเดตเทรนด์รถใหม่! เปรียบเทียบสเปค-ราคา จากทุกค่ายดัง