TOYOTA จะอยู่อย่างไร?หากจีนเอาจริงหลังส่งSEDANเทพอย่างBYD Yangwang U7 ชน
โตโยต้าจะอยู่อย่างไร? เมื่อ BYD เปิดตัว Yangwang U7 นวัตกรรมยากตามทัน
การเปิดตัว BYD Yangwang U7 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 มอเตอร์ 1,300 แรงม้า ระบบช่วงล่าง DiSus-Z ที่ตอบสนองในระดับมิลลิวินาที แบตเตอรี่
Blade ขนาด 135.5 kWh ที่วิ่งได้ไกลถึง 800 กม. ต่อการชาร์จ
และระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะรอบคัน
ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานรถยนต์ไฟฟ้าจีนและสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมอย่างโตโยต้า
กลยุทธ์ของโตโยต้าต่อการแข่งขันกับ BYD และรถยนต์ไฟฟ้าจีน
เร่งผลิตและเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่
โตโยต้าประกาศแผนเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 600,000 คันในปี 2025 และตั้งเป้าขายรถยนต์ไฟฟ้า
3.5 ล้านคันต่อปีภายในปี 2030 พร้อมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดใหม่ถึง
15 รุ่น ภายในปี 2025 และมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นของ Toyota และ Lexus ทั่วโลก ลงทุนในเทคโนโลยีแบตเตอรี่และโรงงานผลิต
โตโยต้ากำลังสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV แห่งใหม่ในเกาะคิวชู
(Silicon Island) ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อช่วยลดต้นทุนและสร้างความได้เปรียบด้านห่วงโซ่อุปทาน
ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งแบตเตอรี่ พร้อมเตรียมนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State มาใช้กับรถรุ่นปี 2027-2028 ซึ่งจะเพิ่มระยะทางวิ่งได้อีก 50% เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าในปัจจุบัน พัฒนาเทคโนโลยีใหม่และปรับปรุงกระบวนการผลิต
โตโยต้าเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น แพลตฟอร์มโมดูลาร์, กิกะ-คาสติ้ง (giga-casting) และระบบการผลิตแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และตอบสนองความต้องการตลาด EV ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เน้นกลยุทธ์รถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ
แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ยังไม่สูงเท่าคู่แข่ง
โตโยต้ายังเน้นรถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ควบคู่กับ BEV ซึ่งช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ไฟฟ้าล้วนทันที
โดยคาดว่าภายในปี 2025 กว่าครึ่งของยอดขายรถใหม่ในอเมริกาจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ
(hybrid, PHEV, BEV)
โตโยต้าจะอยู่รอดได้อย่างไรในยุค
EV จีน
- ปรับตัวเร็วและลงทุนหนักในเทคโนโลยีแบตเตอรี่และซอฟต์แวร์
- ใช้จุดแข็งด้านคุณภาพ
ความน่าเชื่อถือ และเครือข่ายบริการหลังการขาย
- ขยายไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ตลาดโลก
- ลดต้นทุนการผลิตให้แข่งขันกับรถจีนได้
- เร่งสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแบตเตอรี่
ข้อสรุป
แม้ BYD และรถยนต์ไฟฟ้าจีนจะรุกหนักด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและราคาที่แข่งขันได้ยาก
โตโยต่ายังมีศักยภาพสูงจากฐานการผลิตขนาดใหญ่ การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่
และกลยุทธ์ตลาดที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม
โตโยต้าต้องเร่งปรับตัวและลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าจีนกำลังเปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น