กรรมของยานยนต์ไทย หลังศึกMOTOR SHOWทำพิษส่วนแบ่งหายหลายค่ายปีที่แล้ว!
วิบากกรรมยานยนต์ไทย กลับตัวก็ไม่ได้ เดินต่อไปก็ไม่ถึง?
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญกับวิบากกรรมอย่างหนักในปี
2567-2568 โดยสถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนถึงความท้าทายที่ซับซ้อนและรุนแรงจนเรียกได้ว่า "กลับตัวก็ไม่ได้ เดินต่อไปก็ไม่ถึง" ดังนี้
สถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี
โดยยอดผลิตรถยนต์ลดลงกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงวิกฤตโควิด-19 การผลิตรถยนต์ในเดือนมกราคม 2568 ลดลงถึง 24.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
โดยผู้ผลิตรายใหม่จากจีน เช่น BYD เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด
ส่งผลให้ผู้ผลิตเดิมต้องปรับตัวอย่างหนัก หนี้ครัวเรือนของไทยสูงถึง
90.8% ของ GDP ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศซบเซาเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
และสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ โครงสร้างต้นทุนของไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งอย่างจีนถึง 30% ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและรถยนต์ไทยแข่งขันได้ยาก ยอดขายรถกระบะซึ่งเป็นรถยอดนิยมในไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีจำนวนมากและจ้างงานสูง ภาคธุรกิจต้องลดกำลังการผลิตและจำนวนพนักงานลงอย่างต่อเนื่อง ปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยังไม่คลี่คลาย
ทำให้การผลิตรถยนต์ชะลอตัว
ความท้าทายและผลกระทบ
- อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่จากรถยนต์สันดาปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานใหม่
ทำให้ผู้ผลิตต้องลงทุนสูงและปรับตัวอย่างรวดเร็ว
- การแข่งขันในตลาดส่งออกที่รุนแรงขึ้น
โดยเฉพาะกับผู้ผลิตจากจีนที่เข้ามาแย่งตลาด
- หนี้ครัวเรือนสูงและภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ทำให้กำลังซื้อในประเทศลดลงอย่างมาก
- ผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อยในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เสี่ยงต่อการปิดกิจการ
ซึ่งหากเกิดขึ้นจะทำให้อุตสาหกรรมนี้ฟื้นตัวได้ยากมาก
แนวโน้มและความหวังในอนาคต
คาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี
2568 แต่จะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนโควิดในเร็วๆ
นี้ ภาคยานยนต์เชิงพาณิชย์มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก รัฐบาลและภาคเอกชนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า
(EV 3.0) เพื่อพยายามพลิกฟื้นสถานการณ์ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และมาตรการส่งเสริมการลงทุนอาจช่วยกระตุ้นยอดขายในระยะกลาง
สรุป
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตที่รุนแรงและซับซ้อนจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ
ทั้งยอดขายที่ลดลงจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าคู่แข่ง
ทำให้อุตสาหกรรมนี้อยู่ในภาวะ "กลับตัวก็ไม่ได้
เดินต่อไปก็ไม่ถึง" โดยยังต้องใช้เวลานานและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อฟื้นฟูและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น